พาเที่ยว พะเยา ตอนที่ 2



        วัดอนาลโยทิพยาราม พะเยา


      วัดอนาลโยทิพยาราม ตั้งอยู่บนดอยบุษราคัมห่างจากตัวจังหวัด 20 กิโลเมตร ไปทางทิศเหนือตามทางหลวงหมายเลข 1 (พะเยา - เชียงราย) ประมาณ 7 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1127 - 1193 อีก 9 กิโลเมตร ทางลาดยางตลอดสาย บริเวณดอยบุษราคัม และม่อนพระนอน ประกอบด้วยพระพุทธรูปศิลปสุโขทัยลักษณะงดงามมาก และยังมีพระพุทธรูปปางต่างๆ อีกหลายองค์ อาทิ พระพุทธไสยาสน์ พระพุทธรูปปางลีลา พระพุทธรูปปางนาคปรก สร้างด้วยความประณีตสวยงามแบบศิลปไทย รัตนเจดีย์ เป็นศิลปะแบบอินเดียพุทธคยา เก๋งจีนประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม หอพระแก้วมรกตจำลอง จากยอดเขาสามารถชมทัศนียภาพ ของกว๊านพะเยาและเมืองพะเยาได้อย่างสวยงาม ขึ้นได้ 2 ทาง คือ ทางบันไดและทางรถยนต์ มีที่พักแบบรีสอร์ทบนวัด




ประวัติของ วัดอนาลโยทิพยาราม

           พระอาจารย์ ไพบูลย์ สุมังคโล ขณะ นั้นท่านอยู่ที่วัดรัตนวนาราม ท่านได้มีปรากฎการณ์เห็น ทรายทองไหลลงมาสู่วัดเป็นสาย รังสี แสงของทรายทองที่ไหลพั่งพรูราวกับสายน้ำนั้นอาบวัดทั้งวัด จนแทบจะกลายเป็นวัดทองคำ ท่านมองตามลำ แสงสีทองไปก็เห็นเขาที่อยู่อีกฟากหนึ่งของกว๊านพะเยานั่นเอง จากนั้นได้มีโยมมาอาราธนาให้ไปดูสถานที่สำคัญ
และ แปลกประหลาด เพื่อจะได้สร้างสำนักสงฆ์ไว้เป็นที่บำเพ็ญกุศลของชาวบ้าน เป็นที่ ๆ ชาวบ้านมักจะเห็นแสง สว่างเป็นดวงกลมลอยไปมาอยู่บนดอยสูง

             แสงนั้นดูสว่างเรืองรอง บางทีก็สว่างจ้าเป็นสีเหลืองสดอาบทั้งดอยราว กับกลายเป็นดอยทองคำ เหตุการณ์เหล่านี้มักจะปรากฏในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น วันพระ 8 หรือ 15 ค่ำ

            ที่มาของชื่อวัด อนาลโยทิพยาราม ก็มาจากเมื่อปี พ.ศ.2525ท่านพระอาจารย์ได้ตัดสินใจมาอยู่ที่ นี่และเริ่มสร้างวัด ท่านได้ นิมิตว่ามีคนรูปร่าง ดำ สูงใหญ่มาบอกว่าหาก ท่านอาจารย์จะมาอยู่ที่นี่ ก็มาอยู่ได้ แต่ขอให้ตั้งชื่อวัด เป็นวัดหลวงปู่ขาว ซึ่งท่าน พระอาจารย์ก็ ไม่ขัดข้องประการใด ดังนั้นจึงได้เป็นชื่อ วัดอนาลโยขึ้นมา เพราะท่าน มีนามว่า
หลวง ปู่ขาว อนาลโย ผู้เป็นประธานสงฆ์ อยู่ ณ วัดกลอง เพล จ.อุดรธานี และยังมี พระพุทธลีลา หรือพระยืนที่ท่านตั้งใจจะ สร้างขึ้น ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางลีลาที่สูงใหญ๋ที่สุด สร้างไว้บนยอด เขาตรีเพชร มีความสูง 25 เมตร กว้าง 6 เมตร น้ำหนักรวม 254 ตัน พระองค์นี้ใน ตอนแรกได้สร้างเป็นชิ้น ๆ ก่อน แล้วค่อยนำมาประกอบ ขึ้น ซึ่งต้องใช้ความอดทน มากทีเดียว กว่าจะได้ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง อย่างที่เราได้เห็นกันอยู่นี้

ภาพบรรยากาศภายในวัด


ซุ้มประตูวัดอนาลโยทิพยาราม





บันไดพญานาควัดอนาลโยทิพยาราม

       มาถึงทางขึ้นวัดกันจะเป็นบันไดยาวหลายขั้นเลย ถ้าให้เปรียบเทียบกับวัดพระธาตุดอยสุเทพผมว่าวัดอนาลโยหลายขั้นมากกว่า จริงๆแล้วมีทางขึ้นสำหรับรถยนต์ด้วย แต่ค่อนข้างชัน ถ้ามีคนสูงอายุมาด้วยก็นั่งรถสองแถวขึ้นมาข้างบนวัดก็ได้ครับ

      พอเดินขึ้นบันไดมาเรื่อยๆจะเห็นวิวด้านล่างสวยดีครับ ลองสังเกตุดูรูปปั้น พระพุทธรูปที่นี่จะเป็นแนวศิลปะสุโขทัยดูแล้วคล้ายๆวัดเก่า แต่จากการศึกษาประวัติของวัด วัดเริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี 2525 ก็มีอายุ 27 ปีได้



รูปจำลองนาคมานพในเครื่องทรงกษัตริย์ 


                 ในวันที่ 20 มกราคม 2530 กระทรวงศึกษาธิดารและมหาเถรสมาคมได้อนาญาตให้เป็นวัดโดยสมบูรณ์เมื่อขึ้นมาถึงวัดแล้วไม่จบแค่นั้นนะครับวัดมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ผมจะพาไปชมภายในวัดครับ



รูปปั้นน้ำพุเล็กๆ





พระพุทธรูปปางนาคปรก



พระพุทธเมตตานภาวิสุทธิมงคล



           สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี เป็นรูปเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) พรหมรังสี ที่อยู่ในหอพระเงิน ด้านหลังหอพระเงินมีเจดีย์ สร้างด้วยอิฐ ลวดลายสวยงาม ด้านหลังหอนี้เป็นพระเจดีย์





วิหารพระแก้วบุษราคัม



ศาลาเจ้าแม่กวนอิม







            วิหารพระหมื่นปี 

               เป็นวิหารทรงสูงหลังคาหลายชั้น ขนาดค่อนข้างกว้างขวางอยู่นอกทางเดินหลักแต่ไม่ไกล       นัก ภายในสามารถบรรจุพระภิกษุสงฆ์ได้หลายรูป มีอาสนและเก้าอี้อยู่ภายใน น่าจะเป็นที่ใช้สำหรับพิธีสังฆกรรมในบางครั้ง เมื่อเข้าไปภายในมีแสงลอดเข้ามาจากหน้าต่างทั้ง 2 ข้างแต่ไม่มาก มองเห็นพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ภายในแต่การถ่ายภาพภายในค่อนข้างลำบากต้องมีขาตั้งไปด้วยพานดอกบัวที่เห็นวางอยู่ที่แท่นบูชาพระพุทธรูปแสดงให้เห็นว่ามีการเปลี่ยนดอกบัวทุกวัน

พระเจดีย์ 

       อยู่กลางทางเดินถัดจากพระพุทธรูปปางนาคปรก เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมส่วนยอดเป็นกรวยแหลม มีบันไดทางขึ้นสู่พระเจดีย์ 3 ด้าน ด้านตะวันออกประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย   ส่วนด้านทิศเหนือและทิศใต้ประดิษฐานพระพุทธรูปที่บันไดทางขึ้นลง ปางมารวิชัยพร้อมฉัตร ในรูปเป็นด้านทิศตะวันตก ที่มุมทั้งสี่ด้านของลานพระเจดีย์ มีเจดีย์องค์เล็กๆ สร้างแบบเดียวกันอยู่ทั้งสี่มุม ลานรอบๆ องค์พระเจดีย์ปูด้วยแผ่นกระเบื้องมีลวดลายเรียงต่อกันไป




       ซุ้มประตูไม้สลักลายสวยงาม เมื่อเดินต่อมาอีกหน่อยจะเห็นซุ้มประตูแห่งนี้ ระหว่างที่เดินถึงจุดนี้อยู่ๆ ก็มีฝนตกลงมา ทั้งๆ ที่ฟ้ายังสว่างสดใสทำให้เราต้องรีบเดินไปยังวิหารพระแก้วมรกต





          เจดีย์พุทธคยา กว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๑๐ เมตร สูงถึงยอดฉัตรทรงอินเดีย ๓๒ เมตร หรือเท่ากับ ๑ ใน ๓ ของเจดีย์พุทธคยาองค์จริงของอินเดีย นับว่าเป็นเจดีย์พุทธคยาที่จำลองแบบได้เหมือนองค์จริงมากที่สุดแห่งหนึ่ง





                  นอกจากนี้บนยอดเขาตรีเพชรยังประดิษฐานพระพุทธลีลา(พระนามพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) พระพุทธรูปปางลีลาองค์ใหญ่ที่สุดอีกด้วย



เห็นวิวกว๊านพะเยาเบาๆ







วิหารเจ้าแม่กวนอิมหยกขาว






       หลังจากเราเดินจนทั่วทั่งวัด ได้เห็นถึงความสวยงามของวัดและวิวเมืองพะเยา วันนี้ผมต้องเปลี่ยนความคิดแล้วครับ จังหวัดพะเยาก็มีของดีอยู่หลายอย่าง ไม่ใช่แต่ทางผ่านไปเที่ยวเชียงรายอีกต่อไปแล้ว ชักหลงรักพะเยาแล้ว


การเดินทาง

           ตั้งอยู่บนดอยบุษราคัมห่างจากตัวจังหวัด 20 กิโลเมตร ไปทางทิศเหนือตามทางหลวงหมายเลข 1 (พะเยา - เชียงราย) ประมาณ 7 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1127 - 1193 อีก 9 กิโลเมตร ทางลาดยางตลอดสาย บริเวณดอยบุษราคัม และม่อนพระนอน ประกอบด้วยพระพุทธรูปศิลปสุโขทัยลักษณะงดงามมาก และยังมีพระพุทธรูปปางต่างๆ อีกหลายองค์ อาทิ พระพุทธไสยาสน์ พระพุทธรูปปางลีลา พระพุทธรูปปางนาคปรก สร้างด้วยความประณีตสวยงามแบบศิลปไทย รัตนเจดีย์ เป็นศิลปะแบบอินเดียพุทธคยา เก๋งจีนประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม หอพระแก้วมรกตจำลอง จากยอดเขาสามารถชมทัศนียภาพ ของกว๊านพะเยา และเมืองพะเยาได้อย่างสวยงาม ขึ้นได้ 2 ทาง คือ ทางบันไดและทางรถยนต์



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

พาเที่ยว พะเยา ตอนที่ 7

พาเที่ยว พะเยา ตอนที่ 4

พาเที่ยว ตาก ตอนที่ 12